วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2553

kuisociety

                   โปรแกรม kuisociety เป็นโปรแกรมที่มีลูกเล่นคล้ายๆกับfacebook แต่ต่างกันที่ ตอนนี้ facebook ได้รับความนิยมแพร่หลายกว่า และ facebook เล่นง่ายกว่า เพราะไม่มีแถบข้อมูลที่ซับซ้อนมาก แต่ kuisociety เป็นโปรแกรมที่มีสาระความรู้มากกว่า จึงเหมาะแก่ผู้ที่ต้องการหาคาวมรู้ได้ ดังนั้น kuisociety จึงเหมาะที่จะนำมาใช้เพื่อการเป็นชุมชนเหมือน facebook  เพราะ เป็นโปรแกรมที่มีประโยชน์ในด้านการคุยแบบติดต่องาน แลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน


วันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ขึ้นแสตนด์เชียร์

          การขึ้นแสตนด์เชียร์ เป็นกิจกรรมรับน้องกิจกรรมหนึ่ง ซึ่งฉันได้มีโอกาสขึ้นแสตนด์คณะโลจิสติกส์ ในงานกีฬาเทาทองปี 2553 ซึ่งปีนี้ คณะโลจิสติกส์ขึ้นแสตนด์ทั้งหมด 180 คน ซึ่งมากที่สุดในบรรดาทุกคณะ และมากที่สุดกว่าทุกปี  โดยใช้คอนเซ็ป " Logistics Plaza " แต่คณะโลจิสติกส์ไม่ได้แข่งแสตนด์ เป็นการโชว์แสตนด์เท่านั้น




                       จากประสบการณ์ที่ฉันได้ซ้อมเชียร์ ตอนแรกเป็นสิ่งที่กดดันมาก เพราะต้องมาซ้อมเชียร์ทุกวันตั้งแต่ 6 โมงเย็น ถึงเกือบๆ 5 ทุ่ม ต้องร้องเพลงเสียงดัง ต้องจำเนื้อเพลงให้ได้ภายในเวลาไม่กี่วัน ถ้าเพื่อนมาไม่ครบก็จะโดนพี่ระเบียบทำโทษ โดนพี่เชียร์ตำหนิ ยิ่งใกล้ถึงวันจริง ต้องเลิกดึกกว่าทุกวัน ต้องจำโค้ดของเราให้ได้ ร้องเพลงต้องเสียงดัง และต้องทำพร้อมกัน

                      แต่เมื่อถึงวันจริง ฉันรู้สึกตื่นเต้นมาก คณะเราไปนั่งรอโชว์แสตนด์ตั้งแต่ประมาณ 6 โมงเย็น ได้โชว์เกือบเที่ยงคืน ตอนก่อนแข่งฝนตกหนักมาก เราก้อไม่ย่อท้อ นั่งตากฝนกันไป พอถึงคิวคณะเราโชว์ มีคนมาดูมากมาย เริ่มจากพี่เดินเรือคนนึงให้เราทุกคนไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของคณะ พอไหว้เสร็จ ฝนหยุดตก!!!  และเราก้อเริ่มแสดงโดยเพลงแรกเป็นเพลงพระราชนิพนธ์ ชื่อเพลง ดวงใจกับความรัก เพลงนี้โค้ดสวยมาก และเพลงต่อมาเป็นเพลงมาร์ชมหาวิทยาลัยบูรพา และเพลงเชียร์อีกมากมาย พวกเราทำโค้ดและร้องเพลงเสียงดังมาก เป็นที่น่าภูมิใจกับพี่ๆและเพื่อนทุกคน ถึงแม้ว่าจะทำโค้ดผิดกันบ้าง



                    
                     หลังจากเสร็จกิจกรรมขึ้นแสตนด์เชียร์ ฉันรู้สึกภูมิใจมาก ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตปี 1 ได้เข้ามาร่วมทำกิจกรรมกับเพื่อนๆ เราได้รู้ว่าที่พี่ระเบียบ พี่เชียร์ ทำโทษเรา ก็เพราะอยากให้เรามีระเบียบวินัย รู้จักการเคารพรุ่นพี่ อีกทั้งยังทำให้เราได้รู้จักเพื่อนใหม่ในคณะ ทั้งสาขาโลจิสติกส์ สาขาอุตสาหกรรมพาณิชยนาวี และสาขาวิทยาการเดินเรือ สุดท้าย ฉันต้องบอกว่า ดีใจมากๆ ที่ได้เข้ามาอยู่ในคณะนี้ เพราะเพื่อนๆ ให้ความรัก ความอบอุ่นแก่เรา ทำให้เราปรับตัวได้เร็วขึ้น และทำให้เรามีความสามัคคีกันมากขึ้น









งานสัปดาห์วันวิทยาศาสตร์

               งานสัปดาห์วันวิทยาศาสตร์  จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 - 18 สิงหาคม 2553 บริเวณ ลานหน้าคณะวิทยาศาสตร์ ตึกคณะวิทยาศาสตร์ หอประชุมธำรงบัวศรี และตึกคณะสหเวชศาสตร์ ซึ่งบริเวณหน้าคณะวิทยาศาสตร์จะเป็นร้านขายของมากมาย ทั้งอาหาร เสื้อผ้าแฟชั่น รองเท้า กิ๊ฟชอปต่างๆ มากมาย บิเวณในหอประชุมธำรงบัวศรี มีการประกวดโครงงานทางวิทยาศาสตร์ทั้งวิทยาศาสตร์กายภาพ ชีวภาพ และประยุกต์ ของนักเรียนั้นมัธยมศึกษาตอนต้น และตอนปลาย อีกทั้งยังมีนิทรรศการเทิดพระเกียรติอีกด้วย ภายในห้องขั้น 2 มีการประกวดวงดนตรี บริเวณตึกสิรินทร มีการตอบปัญหาทางวิทยาศาสตร์ โชว์นิทรรศการต่างๆ และคณะสหเวชศาสตร์ เปิดให้ดูอาจารย์ใหญ่ที่นิสิตมหาวิทยาลัยบูรพาใช้ในการศึกษา ซึ่งงานนี้เป็นงานที่ให้ความรู้ได้เป็นอย่างมาก



ตึกถล่ม

           จากการติดตามข่าวตึกถล่ม ทราบว่า เป็นตึกของคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา จังหวัดชลบุรี ตึกถล่มเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคม 2553 ซึ่งตรงที่เกิดเหตุเคยเป็นสระน้ำมาก่อน พร้อมทั้งช่วงนี้เกิดฝนตกหนักมาหลายวัน ทำให้ปูนที่เทตรงบริเวณชั้น 2 ไม่แห้ง จึงทำให้อาคารเกิดการยุบตัวได้ง่าย พบว่า ชั้น 2 ของตึก ยุบตัวลงมาทับชั้น 1 ของตึกทั้งหลัง เหลือแต่เหล็กเส้นที่คาติดกับเสาอยู่ และจากการติดตามข่าวด่วน พบว่า มีคนงานติดอยู่ในซากอาคารประมาณ 30 คน เสียชีวิต 1 คน ในวันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จากหน่วยต่างๆ ได้เข้ามาช่วยเหลือคนงานที่ติดอยู่ และนำส่งโรงพยาบาลชลบุรี และโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพา แต่ทั้งนี้ ไม่มีนิสิตหรือบุคคลากรของมหาวิทยาลัยบูรพาได้รับความเสียหายเลย



กิจกรรมแบ่งปันสิ่งดีๆ จากพี่สู่น้อง

กิจกรรมแบ่งปันสิ่งดีๆ จากพี่สู่น้อง เป็นกิจกรรมที่กระทำกันสืบต่อกันมาของโรงเรียนพิบูลวิทยาลัย จังหวัดลพบุรี เมื่อตอนฉันอยู่ม. 6 ฉันได้มีโอกาสไปทำกิจกรรมนี้กับเพื่อนๆในห้อง  ซึ่งห้องของฉันได้ไปพัฒนาโรงเรียนวัดนายาว จังหวัดสระบุรี





              โรงเรียนวัดนายาว เป็นโรงเรียนที่อยู่ติดถนนสายลพบุรี - สระบุรี เป็นโรงเรียนที่มีนักเรียนประมาณ 100 คน นักเรียนส่วนมากเป็นเด็กที่ขาดแคลนคุณทรัพย์ บางคนเป็นเด็กที่มาจากประเทศกัมพูชา ซึ่งย้ายมาอยู่ที่ประเทศไทยเพราะครอบครัวมาทำงานที่ไทย อาจารย์ที่โรงเรียนนี้มีไม่ถึง 5 ท่าน โรงเรียนนี้จึงเหมาะสมที่จะได้รับการพัฒนา ทั้งศักยภาพของเด็ก และ สภาพแวดล้อมภายในโรงเรียน
              ห้องของฉันจึงได้ไปจัดกิจกรรมนันทนาการให้กับเด็กๆ อีกทั้งยังช่วยกันพัฒนาโรงเรียน เช่น จัดบอร์ดหน้าห้องเรียน ซึ่งเป็นบอร์ดที่ให้ความรู้กับนักเรียน, ทำความสะอาดห้องสมุด จัดหนังสือของห้องสมุดให้เป็นหมวดหมู่, เลี้ยงอาหารและขนมแก่เด็กนักเรียน, ทำกิจกรรมสันทนาการ, แจกอุปกรณ์การเรียนให้กับเด็กนักเรียนทุกคน ซึ่งเด็กๆทุกคนชอบกิจกรรมนี้มาก และได้รับคำชมเป็นอย่างดีจากอาจารย์ทุกท่าน และที่สำคัญที่สุด คือ พวกเรามีความสุขมากที่ได้ไปพัฒนาโรงเรียนวัดนายาว และเห็นน้องๆ ทุกคนมีความสุข และสนุกกับกิจกรรมที่พวกเราจัดให้เป็นอย่างดี